1 แดนนี่ วอร์ด
แดนนี่ วอร์ด ผู้รักษาประตูทีมชาติเวลส์ ซึ่งตลอดระยะเวลาที่อยู่กับสโมสรมาแล้ว 6 ปี เขาได้โชว์ผลงานยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง ในทุกการแข่งขันตลอดมา
แดนนี่ วอร์ด ผู้รักษาประตูชาว เวลส์ เกิดเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 1993 เริ่มต้นอาชีพค้าเเข้งกับสโมสรเร็กซ์เเฮม ที่เป็นทีมประจำเมืองเกิดของเขา เเต่ได้ประเดิมสนามในฐานะนักเตะในทีมชุดใหญ่พร้อมทั้งคว้าตำเเหน่งนักเตะยอดเยี่ยมประจำเเมทช์ ขณะถูกยืมตัวไปที่สโมสรแทมเวิร์ธ ฟอร์มอันยอดเยี่ยมนั้นส่งผลให้สโมสรลิเวอร์พูล ตัดสินใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีมในเดือนมกราคมปี 2012
วอร์ด พัฒนาทักษะภายใต้การดูเเลของทีม U-18 และ U-23 ตามลำดับเเละถูกดันตัวขึ้นทีมชุดใหญ่พร้อมทั้งถูกส่งไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ มอร์แคมบ์ และ อเบอร์ดีน หลังจากนั้น วอร์ด ย้ายไปอยู่กับฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ในปี 2016-2017 ด้วยการยืมตัวหนึ่งฤดูกาลเต็มโดย วอร์ด โชว์ฟอร์มเยี่ยมลงเล่น 46 นัดเเละช่วยทีมเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ
วอร์ดถูกเรียกตัวกลับไปที่ลิเวอร์พูลในปี 2016 เเละได้รับความไว้ใจให้ลงประเดิมสนามในพรีเมียร์ลีกกับหงส์เเดงในเกมที่ต้นสังกัดขณะนั้นเอาชนะ บอร์นมัธ ไปได้ 2-1 ตามด้วยการลงสนามอีกครั้งในเกมที่ลิเวอร์พูลเอาชนะ สวอนซีไปได้ด้วยสกอร์ 3-1
ผู้รักษาประตูทีมชาติเวลส์ ผู้นี้ แสดงผลงานโดดเด่นโดยการเซฟจุดโทษในสองเกมเพลย์ออฟเลื่อนชั้น รอบรองชนะเลิศ กับเชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ เเละเรดดิ้ง ที่สนามเวมบลีย์ โดยในฤดูกาลที่เเล้ว วอร์ด ได้โอกาสลงสนามที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ในเกมคาราบาว คัพ ด้วย
แดนนี่ วอร์ด รับใช้ทีมชาติเวลส์ตั้งเเต่รุ่นอายุต่ำกว่า 17 ปี 19 ปี 21 ปี เเละทีมชุดใหญ่ในการเเข่งขันระดับนานาชาติ โดยเขาจะเป็นผู้เล่นสัญชาติเวลส์คนที่สามต่อจาก แอนดี้ คิง เเละ จอร์จ โธมัส
ฤดูกาล 2018-19 แดนนี่ วอร์ด มีส่วนสำคัญกับทีม ในรายการ คาราบาว คัพ โดยพาทีมเลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ ฟลีตวู้ด ทาวน์ ,วูลฟ์แฮมป์ตัน,เซาธ์แฮมป์ตัน ผ่านไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้าย โดยพ่ายจุดโทษ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบน่าเสียดาย
โดยสองเกมที่ แดนนี่ วอร์ด โชว์ฟอร์ม เซฟจุดโทษได้อย่างโดดเด่นเป็น เกมที่พบกับ วูลฟ์แฮมป์ตัน และ เซาธ์แฮมป์ตัน นั่นเอง
ถัดมา ใน ฤดูกาล 2019/20 เขายังคงพิสูจน์ผลงานอันยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่อง โดยการเก็บคลีนชีทได้ใน ศึก เอมิเรตส์ เอฟเอ คัพ ในนัดที่พบกับ วีแกน แอธเลติก และ เบรนท์ฟอร์ด ต่อด้วยผลงาน ในลีกนี้ ต่อด้วยในปี 2020/21 วอร์ด ได้ลงเล่นในทัวร์นาเม้นท์นี้ สองนัด พบกับ เบรนท์ฟอร์ด และ ไบรท์ตัน ซึ่งด้วยทีมเวิร์คที่ดีอย่างสม่ำเสมอ จึงทำให้ในฤดูกาล 2020/21 เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ ในการคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ มาครองได้ โดยเอาชนะเชลซี 1-0 ประตู