ช่วงเวลาสำคัญคือการผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศรายการคาราบาว คัพ ฤดูกาล 2017/18 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่เดอ คอร์โดวา-รีด ลงเล่นครบทุกนัดในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดยทำไป 19 ประตูและ 7 แอสซิสต์เป็นปีที่เขาทำผลงานได้ดีที่สุดในฐานะนักเตะของทีม เดอะ โรบินส์ ผลงานของเขาทำให้เขาได้รับการเสนอชื่อให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร รวมถึงการติดทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของ EFL และในทีมยอมเยี่ยมประจำปีของ PFA
หลังการลงเล่นไปกว่า 158 นัดกับ บริสตอล ซิตี้ และถูกปล่อยยืมตัวอีก 5 ครั้ง นักเตะได้ย้ายไปสู่ทีมคาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ในปี 2018 หลังจากทีมเดอะ บลูเบิร์ด ได้เลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก เขาทำไป 5 ประตูในการเล่นในลีกสูงสุดฤดูกาลแรก ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมฟูแล่มโดยดาวเตะวัย 31 ปีจบฤดูกาล 2020/21 ในฐานะดาวยิงสูงสุดโดยทำไปอีก 5 ประตู
ผลงานที่น่าประทับใจของแข้งรายนี้ทำให้เขาได้เริ่มต้นการแข่งขันในระดับทีมชาติ โดยเลือกลงเล่นให้กับทีมชาติจาเมกา นับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนกันยายน ปี 2019 ดาวเตะรายนี้ได้ลงเล่นในรายการฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก, โกลด์ คัพและ คอนคาเคฟ เนชั่นส์ ลีก และล่าสุดถูกเรียกตัวมาติดทีมชาติชุดลุยศึก โคปา อเมริกา โดยเป็นกัปตันทีมนำทีมลงเล่นเกมเปิดสนามรอบแบ่งกลุ่ม
หลังทำผลงานได้ดีกับฟูแล่มในฤดูกาลที่ผ่านมา โดยทำไป 8 ประตูจากการลงเล่น 33 นัดในศึกพรีเมียร์ลีก ช่วยให้ทีมของมาร์โก ซิลวาจบในอันดับที่ 13 ของตาราง และยังสวมปลอกแขนกัปตันทีมไปถึง 3 ครั้ง ด้วยทักษะและความเป็นผู้นำของเขาจะมีส่วนสำคัญในการลงเล่นกับทีม จิ้งจอกสยาม